สายอาชีพ กับความหวังใหม่ในประชาคมอาเชี่ยน

การเรียนต่อในสายอาชีพ กับความหวังใหม่ในประชาคมอาเชี่ยน
ตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่โรงเรียนไหนการแนะแนวที่อาจารย์จากสถาบันต่างๆเข้าไปแนะแนวน้องๆ ที่กำลังจะจบ ม.3 ก็จะต้องมีเนื้อหานี้เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

 ใช่คะ การเข้าสู่ประชาคมอาเชี่ยนโดยส่วนมากทางสถาบันก็จะยกวิสัยทัศน์ พันธกิจเข้ามาว่าทางสถาบันได้ส่งเสริม เข้าร่วม สนองนโยบาย โน่น นี่ นั่น กับการรวมประชาคมอาเชี่ยนที่กำลังจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง (ถ้ารวมกันจริงก็น่ายินดีที่เราจะมี 3G ใช้เหมือนกับลาวแว้ว) แล้วน้องๆจะมีโอกาสที่ดี? โดยไม่เคยบอกว่าดียังไงรึบอกไปน้องๆก็ไม่ได้สนใจ ทำความเข้าใจ แต่พอฟังแล้วดูอินเต๊อร์ อินเตอร์ 55+ จากที่พี่ถามน้องๆทั้งหลายแถวๆบ้านและแถวบ้านที่บ้านนอก(เป็นคนกรุงเทพโดยกำหนดไม่ใช่กำเนิดค่ะ อิอิ) รู้ไหมที่เขาว่าจะได้เข้าร่วมประชาคมอาเชี่ยนน่ะดียังไง น้องๆตอบมาเสียงดังฟังชัดมาก “ไม่รู้ คะ/ครับ”

บอกเพียงแต่ว่ามีโอกาสมากขึ้น เพราะทำงานได้ทั่วทั้งอาเชี่ยน พอพี่มีนถามกลับไปว่า แล้วรู้รึเปล่าเราก็จะมีคู่แข่งทั่วอาเชี่ยนด้วยเช่นกัน ไม่ได้แข่งเฉพาะเด็กไทยแล้วนะ หน้าน้องๆเปลี่ยนสีทันที  พี่มีนเลยถามอีกว่ารู้ไหมเข้าร่วมอะไรกันเรื่องหลักๆ คำตอบที่ได้คือ “ไม่รู้ คะ/ครับ” แต่มีน้องคนหนึ่งตอบได้ คือร่วมวัฒนธรรม กับความมั่นคง การเมือง “ปรบมือ” ให้เลย พี่เคยไปแอบฟังการแนะแนวของสถาบันหนึ่งย่านฝั่งธนฯ มีการชูการเข้าประชาคมอาเชี่ยน มาเป็นจุดเด่น มีการสอนภาษาอังกฤษ จีน เข้าไปด้วย ก็ดูดีสมเหตุสมผล มาอีกโรงเรียนบอกว่าเข่าร่วมโดยวิสัยทัศน์นำการตลาดเข้าสู่อาเชี่ยนโดยเน้นการทำ MIC น้องๆฟังแล้วอึ้งดูดีมีชาติตระกูลเลยทีเดียวแต่ผลตอบรับที่ได้คือน้องๆยังคงสนใจชุดมากกว่าอยู่ดี (ฮา) ยังไงเรามาดูกันหน่อยสิว่ามันจะดีกับสายอาชีพเรายังไง

ถ้ามีการเข้าร่วมในปี 2558 (อีกนานบางคนจบแหละ) การเตรียมตัวเป็นพลเมืองอาเซียน และอาชีวะอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรรองรับการเปิดการค้าเสรีและประชาคมอาเซียน จะมีการเปิดตลาดแรงงานในระดับภูมิภาคมีการจ้างงานและการไหลเข้ามาของแรงงานซึ่งแรงงานไทย(น้องๆในอนาคต)จะต้องต่อสู้ฟาดฟันกับอีก 10 ประเทศ โดยเฉพาะ น้องๆจาก มาเลยเซีย กับ สิงคโปค์ ซึ่งมีทักทักษะสูงกว่าเราในเรื่องที่สำคัญที่สุดนั้นคือ ดิส อิส อะ ภาษา อังกฤษ และภาษาที่สามซึ่งเป็นอภิมหาจุดอ่อนของน้องๆ อาชีวะเราเลยที่เดียวเชียว ทางสถาบันต่างๆในขนาดนี้จึงพยายามเร่งอุดช่องโว่นี้เป็นการใหญ่ เพราะภาษาถือเป็นข้อได้เปรียบในการเปิดตลาดแรงงานในครั้งนี้ อีกหน่อยใครได้แค่ภาษาไทย-อังกฤษ ถือว่าธรรมดา ต้องมีพวงภาษาที่สามเข้าไปถึงจะเจ๊ง เฮ้ย เจ๋ง โดยบ้างสาถบันมีการเพิ่ม จีน และ ญี่ปุ่นเข้าไปในหลักสูตรเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน จีนแว้ว เพราะฉะนั้นการเลือกสถาบันที่เน้นภาษาในการเรียนการสอน น่าจะเป็นทางเลือกที่ไม่น่าตัดทิ้ง (ถึงแม้ชุดจะไม่น่ารักก็ตาม 55+) หวังว่าน้องๆที่กำลังจะเลือกที่เพื่อเข้าศึกษาต่อจะเก็บเข้าเรื่องนี้เข้าไปเป็นสาระในการตัดสินใจนะคะ ส่วนน้องๆที่กำลังศึกษาอยู่ก็พยายามเข้านะคะ แม้จะต้องฟาดฟันกับอีก 10 ประเทศ แต่เราก็มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน อาชีวะไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก อิอิ